รากความดี


รากของความดี 

ธัชนนท์ เสน่ห์ 



เราหยั่งรากต้นกล้า ปลูกค่าความดีให้เห็น 
คอยบ่มเพาะบำเพ็ญ ให้สมบูรณ์
ให้รากลึกที่หยั่ง เปี่ยมพลังอยู่ไม่สาบสูญ 
เติบโตเกิดผลเพิ่มพูน เป็นคนดี


                “ รากของต้นกล้า รากของความดี ” ตามเนื้อหาของบทเพลงที่กระผมได้แต่งขึ้นนั้น คือสิ่งที่เราควรหยั่งลึก ให้เติบโตแผ่ขยาย เพื่อยึดหน้าดินให้แข็งแรงเป็นรากฐานของชีวิตที่สมบูรณ์ เสมือนการปลูกความดีขึ้นตั้งแต่ยังเยาว์วัย เพราะในสังคมและชีวิตของมวลมนุษย์นั้น ล้วนต้องใช้กำลังทางกาย กำลังทางใจ ในการดำเนินชีวิต กำลังทางกายนั้น เราย่อมกระทำให้เป็นคนดีได้ด้วยการเกื้อกูล ช่วยเหลือเอื้อปัน และร่วมรักสามัคคี ส่วนกำลังทางใจนั้น คือการคิดดี ระลึกดี ให้ซื่อสัตย์สุจริต ออกมาจากภายในจิตใจ เพื่อเป็นการครองตนที่สมบูรณ์ สังคมจะได้โปร่งใส สะอาด และเจริญก้าวหน้าด้วยมืออันบริสุทธิ์ ที่จะหลอมปั้นประเทศชาติไว้ด้วยความดี.”
             
                 “ คิดดี ทำดี ให้ซื่อสัตย์สุจริต” คือบ่อเกิดแห่งสังคมที่ร่มเย็น การเริ่มต้นจากตนเอง ด้วยความคิด ที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ และการวางรากฐานตั้งแต่วัยเยาว์ ปลูกฝังให้เรียนรู้ในผลของความดี และการคิดดี เพื่อนำไปสู่การกระทำตนอันเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม แต่ผู้ที่กระทำความดี ก็จักต้องอดทน มานะ และเพียรพยายาม อยู่เสมอ ดังเช่นประโยคที่ว่า “ ต้นไม้เติบโตแข็งแรงเพียงใด ระยะเวลาเติบใหญ่ก็ย่อมมากฉันนั้น หากแต่เป็นไม้ที่โตเร็ว ก็ย่อมโอนอ่อนต่อลมได้ง่าย” เป็นต้นว่า การกระทำความนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการสะสมบ่มเพาะ หรือการกระทำความดี ที่บางครั้งเราอาจจะกระทำโดยไม่รู้ตัวเช่น การเอื้อปัน เอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่นในเรื่องเล็กน้อย สามัญ การแบ่งปันอุปกรณ์เครื่องเขียนแก่เพื่อนที่เดือดร้อนในวัยเด็ก หรือกระทั่งการหยิบยื่นไมตรีด้วยการพูดดี มีศีลธรรมในวัยผู้ใหญ่ ก็เป็นความดีด้วยเช่นกัน อีกประการหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คือความซื่อสัตย์ สุจริต เพราะในปัจจุบัน ผลประโยชน์คือ ตัวขวางกั้นมิให้ศีลธรรมงอกงามขึ้นในจิตใจ ทุกวันนี้ เรามักจะขาดความซื่อสัตย์ในตนเอง ดังเช่น การทุจริตในหน้าที่ของตน ด้วยการหลีกเลี่ยงงานที่ได้รับมอบหมาย การทุจริตในสังคมภาพรวม ด้วยการฉ้อโกงบ้านเมือง หวังผลประโยชน์ส่วนตนเป็นสำคัญ ดังนั้นในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงทรงมีกระแสพระราชดำรัส ตรัสสอนพวกเรา “ให้สร้างคนดี ก่อนที่จะสร้างคนเก่ง ” เพราะคนดีย่อมมีสติที่ระลึกได้ถึงความผิดชอบชั่วดี แต่คนเก่งที่ขาดความเป็นคนดี ก็มักใช้สติปัญญาในทางที่ผิด นำมาสู่ตัวอย่างที่ไม่อันควร และเป็นมลพิษที่ไม่ใสสะอาดเกิดขึ้นในสังคม ซึ่งเราพบเห็นได้มาก และแทบจะเป็นสิ่งหนึ่งที่สังคมเพิกเฉย จนมองเรื่องความทุจริต เป็นเรื่องสามัญธรรมดาไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่การทุจริตนั้น คือตัวขวางกั้นความดีอย่างเยือกเย็น การคิดดี ทำดี จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรกระทำเพื่อต่อต้านกลโกง และความไม่โปร่งใสชอบธรรม การเริ่มต้นด้วยความเอื้อปันฉันพี่น้อง การมุ่งสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน หมู่บ้าน องค์กร และสังคมด้วยการกระทำตนให้ดำรงอยู่ในศีลธรรม ไม่มองผิดเป็นชอบ มีความสุจริตทั้งทางกาย และทางใจ ประสานกัน เพียงเท่านี้สังคมแห่งคนดี ก็จะสามารถเติบโตเป็นกำลังก้านใบ ที่สำคัญของชาติได้ในอนาคต. ....... 
                   
                   “ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง .... พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ที่ทรงพระราชทานในวันเด็ก ปีพุทธศักราช ๒๕๓๐” เป็นข้อความที่บอกย้ำเตือนใจ ให้เราได้ร่วมกันสร้างสังคมที่ใสสะอาด ร่วมกันปลูกปั้นพลเมืองที่มีคุณธรรมจริยธรรม โดยเริ่มต้นจากตนเอง แล้วแผ่ขยายร่มเงานำทางไปสู่ผู้อื่น ให้รู้จัก “คิดดี ทำดี เพื่อความซื่อสัตย์สุจริต” สังคมจะได้งดงาม กายและใจ จะได้บริสุทธิ์ เสมือนรากของต้นกล้าที่หยั่งลึก อันเป็นผลให้หน้าดินแข็งแรง สมบูรณ์



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หนูสองตัวกับความไม่เอาไหนของผม

ขอความกรุณา ...ผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านครับ..........